วันอังคารที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2556

กิจกรรมที่ 4


กิจกรรมที่ 4


1 เพราะการศึกษาเป็นกระบวนการหนึ่งที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศ เป็นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพ และมีการพัฒนาทั้งทางด้านร่างกาย สติปัญญา ความรู้ คุณธรรม จริยธรรม สังคม อารมณ์และจิตใจในการดำรงชีวิต การศึกษาจึงนับเป็นกระบวนการพื้นฐานในการสร้างและพัฒนาคน ดังนั้นประชากรในประเทศหนึ่งๆจึงควรได้รับสิทธิในการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน เป็นระยะเวลาที่เหมาะสม ดังนั้นจึงต้องมีกฏหมายเฉพาะที่ตราขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อให้และสนับสนุนสิทธิทางด้านการศึกษาของเด็กไทย ซึ่งในที่นี้ก็คือ พระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่งเป็นพระราชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบางประการที่เกี่ยวกับการจำกัดสิทธิ และเสรีภาพของบุคคล ก็เพื่อให้การจัดการศึกษาของไทยมีประสิทธิภาพและมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญก็คือ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนคนไทยทุกคนตระหนักและให้ความสำคัญกับการศึกษาของเด็กและเยาวชนไทย เปรียบเสมือนเป็นกฏหมายที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม


2 พระราชบัญญัติ
การศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. ๒๕๔๕ เป็นกฎหมายที่บังคับให้ทุกคนเรียนอยู่ในโรงเรียนจนกว่าจะพ้นเกณฑ์ ซึ่งกำหนดตามอายุ หรือระดับการศึกษาที่ได้แสดงไว้ในแผนการศึกษาแห่งชาติ ซึ่งการจัดการศึกษาทุกระดับ และทุกประเภทนั้นจะต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับแผนการศึกษาแห่งชาติ แผนพัฒนาการศึกษา แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และนโยบายของรัฐบาล และนอกจากนี้รัฐและเอกชนต่างก็มีส่วนร่วมรับผิดชอบในการจัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาของสังคม เพื่อการพัฒนาประเทศ และที่สำคัญคือพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนคนไทยทุกคน


ก. ผู้ปกครอง
ผู้ปกครอง หมายความว่า บิดามารดา หรือบิดา หรือมารดา ซึ่งเป็นผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือผู้ปกครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และหมายความรวมถึงบุคคลที่เด็กอยู่ด้วยเป็นประจำหรือที่เด็กอยู่รับใช้การงาน

ข. เด็ก

เด็ก หมายความว่า เด็กซึ่งมีอายุย่างเข้าปีที่เจ็ดจนถึงอายุย่างเข้าปีที่สิบหก เว้นแต่เด็กที่สอบได้ชั้นปีที่เก้าของการศึกษาภาคบังคับแล้ว

ค. การศึกษาภาคบังคับ

การศึกษาภาคบังคับ หมายความว่า การศึกษาชั้นปีที่หนึ่งถึงชั้นปีที่เก้าของการศึกษาขั้นพื้นฐานตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ

ง. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หมายความว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีสถานศึกษาอยู่ในสังกัด


3 กรณีผู้ปกครองไม่ส่งเข้าเรียนตามที่กฎหมายฉบับนี้กำหนดจะต้องถูกลงโทษอย่างไร และถ้าเด็กไม่สามารถเข้ารับการศึกษาใครจะเป็นผู้มีอำนาจในการผ่อนผันเด็กเข้าเรียน

กรณีผู้ปกครองไม่ส่งเข้าเรียนตามที่กฎหมายฉบับนี้กำหนดจะต้องถูกลงโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท และถ้าเด็กไม่สามารถเข้ารับการศึกษา ให้สถานศึกษาเป็นผู้มีอำนาจในการผ่อนผันเด็กเข้าเรียนเมื่อผู้ปกครองร้องขอ

4 ให้นักศึกษาสรุปประเด็นสำคัญที่ได้จากการอ่านพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ มีทั้งหมด ๒๑ ข้อ

ประเด็นสำคัญที่ได้จากการอ่านพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ คือ

1อำนาจหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการกำหนดไว้ในกฏหมายพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ

2อำนาจหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการ คือ การจัดการศึกษา

3การจัดระเบียบกระทรวงศึกษาธิการจัดได้เป็น3 ส่วนคือ ระเบียบบริหารราชการส่วนกลาง ระเบียบบริหารราชการเขตพื้นที่การศึกษา และระเบียบบริหารราชการในสถานศึกษาของรัฐที่จัดการศึกษาระดับปริญญาที่เป็นนิติบุคคล

4การกำหนดตำแหน่ง ลดอัตราเงินเดือน ของข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการ ให้คำนึงถึงคุณวุฒิ ประสบการณ์ และมาตรฐานวิชาชีพ ลักษณะหน้าที่และความรับผิดชอบ รวมถึงคุณภาพของงาน

5 บทบาทของรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการที่จะต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ คือ อำนาจในการออกกฎหมายกระทรวง ระเบียบและประกาศ และตีความวินิจฉัย ชี้ขาดปัญหาการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ดำรงตำแหน่งและหน่วยงาน

6การจัดระเบียบบริหารราชการส่วนกลาง คือ ส่วนราชการที่ขึ้นตรงต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานรัฐมนตรี และสำนักเลขาธิการสภาการศึกษา

7 ส่วนราชการส่วนกลาง กระทรวงศึกษาธิการที่ไม่เป็นนิติบุคคล คือสำนักงานรัฐมนตรี

8ผู้บังคับบัญชาข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการ คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

9การประเมินผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของสภาการศึกษา

10ประธานคณะกรรมการการสภาการศึกษา คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

11คณะกรรมการที่กำหนดตำแหน่งประธานกรรมการไว้ในพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับนี้ คือ คณะกรรมการสภาการศึกษา

12สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน คือผู้รับผิดชอบงานเลขานุการของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

13เลขาธิการรัฐมนตรี เป็นข้าราชการการเมือง

14การติดตาม ประเมินผลนโยบายตามภารกิจ ไม่ใช่หน้าที่ของผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ

15หน่วยงานระดับกระทรวงศึกษาธิการ กรมหรือหน่วยงานเทียบเท่ากรม และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เป็นหน่วยงานที่สามารถมีผู้ตรวจราชการได้

16การศึกษา วิเคราะห์วิจัย นิเทศติดตามและประเมินผลการบริหารการดำเนินงาน คือบทบาทของคณะตรวจราชการในระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

17บทบาทของกระทรวงศึกษาธิการที่มีต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คือ การประเมินความพร้อมในการจัดการศึกษา เสนอแนะ การจัดสรรงบประมาณอุดหนุนการจัดการศึกษา และการประสานส่งเสริมการจัดการศึกษา

18 ในกรณีที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาไม่อาจจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานหรือการศึกษาระดับอุดมศึกษา ระดับกว่าปริญญาตรีได้ จะมีสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงานที่จะมาจัด

19หน่วยงานอื่นสามารถจัดการศึกษา ในรูปแบบการศึกษานอกระบบหรือตามอัธยาศัย การจัดการศึกษาสำหรับคนที่มีความสามารถพิเศษ และการจัดการศึกษาสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์ สังคม การสื่อสารและการเรียนรู้ หากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาไม่สามารถจัดการศึกษาได้

20ผู้บังคับบัญชาข้าราชการสำนักงานรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คือ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการและเลขาธิการ

21ผู้บังคับบัญชาข้าราชการในสถานศึกษาของรัฐในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา คือ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น