วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ข้อสอบปลายภาค

ข้อสอบปลายภาค

 1 กฎหมายรัฐธรรมนูญ
ความหมายของ รัฐธรรมนูญ” (Constitution)
สังเกต คำว่า กฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นชื่อวิชาที่ศึกษารัฐธรรมนูญ (Constitution Law)
ส่วนคำว่า รัฐธรรมนูญเป็นชื่อเฉพาะของกฎหมายประเภทหนึ่ง (Constitution)
เช่น ใช้คำว่า มาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญ อย่าใช้คำว่า มาตรา 6 ของกฎหมายรัฐธรรมนูญ
ความหมายอย่างกว้าง
หมายถึง กฎเกณฑ์ที่กำหนดสถานะและความสัมพันธ์ขององค์กรที่ใช้อำนาจสูงสุดต่อกันหรือต่อประชาชน (เน้นที่เนื้อหาสาระของกฎหมาย ครอบคลุมไปถึงรูปแบบของรัฐ,องค์กรที่ใช้อำนาจ ตลอดจนสิทธิเสรีภาพ)
ความหมายอย่างแคบ
หมายถึง กฎเกณฑ์ที่กำหนดสถานะและความสัมพันธ์ ขององค์กรที่ใช้อำนาจสูงสุดต่อกันหรือต่อประชาชนและกฎเกณฑ์อื่น ซึ่งบรรจุอยู่ในรัฐธรรมนูญลายลักษณ์อักษร ที่มีการจัดทำและแก้ไขเพิ่มเติมแตกต่างจากกฎหมายธรรมดา(เน้นที่รูปแบบที่ปรากฏเป็นลายลักษณ์อักษร)
พระราชบัญญัติ
 (พ.ร.บ.) คือบทกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่เป็นประจำตามปรกติ เพื่อวางระเบียบบังคับความประพฤติของบุคคลรวมทั้งองค์กรและเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่มีฐานะสูงกว่าบทกฎหมายอื่น ๆ นอกจากรัฐธรรมนูญ ก่อนประกาศใช้บังคับ
พระราชบัญญัติมีอยู่ชนิดเดียว แต่บัดนี้รัฐธรรมนูญฯ ได้บัญญัติให้มีพระราชบัญญัติขึ้นอีกชนิดหนึ่ง เรียกว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญซึ่งรัฐธรรมนูญฯ บังคับให้ตราขึ้นเพื่อกำหนดสาระสำคัญในรายละเอียดในกรณีบางเรื่องที่รัฐธรรมนูญกำหนดหลักการไว้ เช่น พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2541
การตราพระราชบัญญัตินั้นจะทำได้ก็แต่โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา และเมื่อพระมหากษัตริย์ได้ทรงลงพระปรมาภิไธย และประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ก็มีผลใช้บังคับเป็นกฎหมายได้
คำว่า พระราชบัญญัติ เป็นชื่อเรียกกฎหมายที่บัญญัติขึ้นโดยประเทศที่มีพระมหากษัตริย์เป็นผู้อนุญาต สำหรับประเทศอื่นที่พระมหากษัตริย์ไม่ใช่ผู้อนุญาต (เช่นประธานาธิบดี) จะเรียกว่า รัฐบัญญัติ
พระราชกฤษฎีกา
คือ บัญญัติแห่งกฎหมายที่พระมหากษัตริย์ทรงตราขึ้น โดยอาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติ หรือพระราชกำหนดเพื่อใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน[1] ตามคำแนะนำของคณะรัฐมนตรี ซึ่งในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 187 บัญญัติว่า พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการตราพระราชกฤษฎีกา โดยไม่ขัดต่อเทศบัญญัติ
คือ กฎหมายที่เทศบาลออกเพื่อใช้บังคับในเขตเทศบาลทั้งนี้อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติเทศบาล พศ.2496
ผู้เสนอร่างเทศบัญญัติ ได้แก่ นายกเทศมนตรี สมาชิกสภาเทศบาล หรือราษฎรผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเทศบาลตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น พศ.2542
ร่างเทศบัญญัติเกี่ยวกับการเงิน จะเสนอได้ก็ต่อเมื่อมีคำรับรองของนายกเทศมนตรี
ผู้พิจารณา ได้แก่สภาเทศบาล
ผู้อนุมัติ ได้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด
ผู้ตรา ได้แก่ นายกเทศมนตรี
ในกรณีฉุกเฉินซึ่งจะเรียกประชุมสภาเทศบาลให้ทันท่วงทีมิได้ ให้คณะเทศมนตรีมีอำนาจออกเทศบัญญัติเพื่อพิจารณาอนุมัติในการประชุมสภา เทศบาลคราวต่อไปถ้าสภาเทศบาลอนุมัติ เทศบัญญัติชั่วคราวนั้นก็เป็นเทศบัญญัติต่อไป ถ้าสภาเทศบาลไม่อนุมัติ เทศบัญญัติชั่วคราวก็เป็นอันตกไปแต่ทั้งนี้ไม่กระทบกระเทือนถึงกิจการที่ได้เป็น ไประหว่างใช้เทศบัญญัติชั่วคราวนั้น
การประกาศใช้ ณ ที่ทำการสำนักงานเทศบาล



   2 กฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่ใช้ในการปกครองประเทศ ปัจจุบันเป็นไปในลักษณะที่มีการพยายามปรับแก้ไขเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่กลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่งมากขึ้น ซึ่งเกิดจากปัญหาที่มีการแบ่งพรรคแบ่งพวกกันทางการเมือง และที่สำคัญคือ เกิดจากปัญหาทางการเมืองที่มีมายาวนาน
                        ในการกำหนดออกกฎหมายสิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุดของการประกาศใช้ ก็คือจะต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่และเป็นไปเพื่อรักษาสิทธิและเสรีภาพของประชาชน โดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของตนเองเป็นใหญ่
                        หากเราไม่มีรัฐธรรมนูญในการปกครองประเทศก็จะทำให้ประเทศของเราเกิดความขัดแย้ง วุ่นวาย และไม่มีแนวทางในการปฏิบัติตนที่ถูกที่ควร อันจะส่งผลไปสู่การเกิดความขัดแย้งต่างๆของคนในประเทศ ทำให้เกิดความไม่สงบสุขและเกิดความเสียหายต่อประเทศชาติในทุกๆด้าน
3 โดยส่วนตัวแล้วข้าพเจ้าคิดว่าไม่สมควรแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 112 ด้วยเหตุผลเพราะว่าในปัจจุบันนี้ประเทศไทยเกิดการแบ่งพรรคแบ่งพวก คิดหวังเอาแต่ประโยชน์ส่วนตนมากกว่าผลประโยชน์ของประเทศชาติ มุ่งหวังแต่อำนาจและเงินทอง โดยไม่สนใจสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งสังเกตได้จากที่ผ่านมาแม้ว่าจะมีรัฐธรรมนูญมาตรา 112 นี้ก็ยังมีบุคคลที่มีพฤติกรรมหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่แล้ว หากมีการแก้ไขมาตราที่ 112 นี้อีกต่อไปประเทศไทยของเราก็อาจจะมีโอกาสสูญเสียระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ซึ่งอันที่จริงแล้วเราจะเห็นได้ว่าคนไทยทุกคนย่อมมีสิทธิในการปกป้องและคุ้มครองตนเอง แต่เราคนไทยทุกคนก็ควรจะมีความเคารพและศรัทธาในพระองค์ไม่ใช่คอยหาช่องโหว่เพื่อล้มล้างพระองค์เช่นนี้ หากเราทุกคนยังไม่มีความมั่นใจในความรักและความหวังดีที่พระองค์มีต่อปวงชนชาวไทย ก็ให้หวนกลับมาคิดว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยของเรานั้นใช้ปกครองประเทศมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ แต่ก็ไม่เคยปรากฏว่าพระองค์จะเอาเปรียบประชาชนของพระองค์ในประเด็นไหน มีแต่ประชาชนของพระองค์ที่ไม่มีความจงรักภักดีต่อพระองค์เท่านั้นที่ต้องการจะแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 112 นี้เพื่อให้เป็นช่องโหว่ในการกระทำผิดของตนเอง
            แต่ทั้งนี้การที่มีกลุ่มบุคคลออกมาแสดงถึงเจตนารมณ์ของตนเองในการเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 112 ดังกล่าวก็ไม่ใช่พฤติกรรมที่ผิด เพราะพวกเขาย่อมมีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเรียกร้องสิ่งที่พวกเขาต้องการ แต่สิ่งที่พวกเขาเรียกร้องนั้นจะต้องผ่านการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนในเหตุและผลของความเป็นไปได้ และมีการชี้แจงให้เหตุผลให้บุคคลเหล่านั้นเข้าใจโดยทั่วกัน
4 ในฐานะที่ข้าพเจ้าเป็นคนไทยคนหนึ่ง ข้าพเจ้ามองว่าปัญหานี้เป็นปัญหาที่ยิ่งใหญ่และมีความสำคัญมากต่อคนไทยทุกคน เพราะปัญหานี้อาจจะทำให้ประเทศไทยของเราต้องสูญเสียดินแดนที่บรรพบุรุษของเราต้อสู้ และเสียสละเลือดเนื้อเข้าแลกไว้ เราทุกคนที่เป็นคนไทยจึงควรตระหนักถึงความดีงามและความกล้าหาญของบรรพบุรุษของเรา ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้เราทุกคนเกิดความรู้สึกรักและหวงแหนในดินแดนที่เป็นของประเทศไทยของเรามากขึ้น ถึงแม้ว่าดินแดนนั้นจะเป็นดินแดนที่น้อยนิดก็ตาม
สำหรับข้าพเจ้าก็มีวิธีการในการแก้ไขปัญหานี้ก็คือ การอาศัยอำนาจแห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในการออกความคิดเห็นและแสดงให้เห็นถึงสิทธิและเสรีภาพในการออกความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ โดยจัดให้มีการลงประชามติ ให้คนส่วนใหญ่ได้ลงชื่อเพื่อเป็นการรวบรวมกำลังและความคิดเห็น เพื่อเป็นพลังในการต่อสู้เกี่ยวกับกรณีพิพาทดังกล่าว และที่สำคัญคือ เพื่อรักษาดินแดนที่เป็นของประเมศไทยของเราเอาไว้นั่นเอง
5  เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะพระราชบัญญัติ ก็คือข้อกำหนด ระเบียบแบบแผนต่างๆที่เกี่ยวกับการศึกษาที่ถูกกำหนดขึ้นอย่างชัดเจนและเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อเป็นการรักษาและคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพทางด้านต่างๆของบุคคลหรือบุคลากรทางการศึกษา มีการกำหนดหลักในการปฏิบัติตนและระเบียบกฎเกณฑ์ในการปฏิบัติงานของบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับการศึกษา ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าพระราชบัญญัติการศึกษาเปรียบเสมือนรัฐธรรมนูญการศึกษา ที่เป็นเครื่องชี้ทางปฏิบัติให้เกิดความสงบเรียบร้อยในบริหาร จัดการและดำเนินงานที่เกี่ยวกับการศึกษา เป็นบทบัญญัติที่ทุกคนในแวดวงการศึกษารับรู้และรับทราบโดยทั่วกัน และที่สำคัญคือ ทุกคนในแวดวงการศึกษาต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
6 การศึกษา คือ กระบวนการเรียนรู้เพื่อความเจริญงอกงามของบุคคลและสังคมโดยการถ่ายทอดความรู้การฝึก การอบรม การสืบสานทางวัฒนธรรม การสร้างสรรค์จรรโลงความก้าวหน้าทางวิชาการ การสร้างองค์ความรู้อันเกิดจากการจัดสภาพแวดล้อม สังคม การเรียนรู้และปัจจัยเกื้อหนุนให้บุคคลเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
  การศึกษาขั้นพื้นฐาน คือ การศึกษาก่อนระดับอุดมศึกษา
                        การศึกษาตลอดชีวิต คือ การศึกษาที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เพื่อให้สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
                        การศึกษาในระบบ คือ เป็นการศึกษาที่กำหนดจุดมุ่งหมาย วิธีการศึกษา หลักสูตรระยะเวลาของการศึกษา การวัดและประเมินผล ซึ่งเป็นเงื่อนไขของการสำเร็จการศึกษาที่แน่นอน
                        การศึกษานอกระบบ คือ เป็นการศึกษาที่มีความยืดหยุ่นในการกำหนดจุดมุ่งหมายรูปแบบ วิธีการจัดการศึกษา ระยะเวลาของการศึกษา การวัดและประเมินผล ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญของการสำเร็จการศึกษา โดยเนื้อหาและหลักสูตรจะต้องมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการของบุคคลแต่ละกลุ่ม
                        การศึกษาตามอัธยาศัย คือ เป็นการศึกษาที่ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองตามความสนใจ ศักยภาพ ความพร้อม และโอกาส โดยศึกษาจากบุคคล ประสบการณ์สังคม สภาพแวดล้อม สื่อหรือแหล่งความรู้อื่น ๆ
                        สถานศึกษา คือ สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย โรงเรียน ศูนย์การเรียน วิทยาลัยสถาบัน มหาวิทยาลัย หน่วยงานการศึกษาหรือหน่วยงานอื่นของรัฐหรือของเอกชน ที่มีอำนาจหน้าที่หรือมีวัตถุประสงค์ในการจัดการศึกษา
                        สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน คือ สถานศึกษาที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
                        มาตรฐานการศึกษา คือ ข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณลักษณะ คุณภาพ ที่พึงประสงค์และมาตรฐานที่ต้องการให้เกิดขึ้นในสถานศึกษาทุกแห่ง และเพื่อใช้เป็นหลักในการเทียบเคียงสำหรับการส่งเสริมและกำกับดูแล การตรวจสอบ การประเมินผล และการประกันคุณภาพทางการศึกษา
                        การประกันคุณภาพภายใน  คือ การประเมินผลและการติดตามตรวจสอบ
คุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาจากภายใน โดยบุคลากรของสถานศึกษานั้นเอง หรือโดยหน่วยงานต้นสังกัดที่มีหน้าที่กำกับดูแลสถานศึกษานั้น
                        การประกันคุณภาพภายนอก  คือ การประเมินผลและการติดตามตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาจากภายนอก โดยสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษาหรือบุคคลหรือหน่วยงานภายนอกที่สำนักงานดังกล่าวรับรอง เพื่อเป็นการประกันคุณภาพและให้มีการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา
                        ผู้สอน  คือ ครูและคณาจารย์ในสถานศึกษาระดับต่าง ๆ
                        ครู  คือ บุคลากรวิชาชีพซึ่งทำหน้าที่หลักทางด้านการเรียนการสอนและการส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่าง ๆ ในสถานศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน
                        คณาจารย์  คือ บุคลากรซึ่งทำหน้าที่หลักทางด้านการสอนและการวิจัยในสถานศึกษาระดับอุดมศึกษาระดับปริญญาของรัฐและเอกชน
                        ผู้บริหารการศึกษา คือ บุคลากรวิชาชีพที่รับผิดชอบการบริหารการศึกษา
นอกสถานศึกษาตั้งแต่ระดับเขตพื้นที่การศึกษาขึ้นไป
                        ผู้บริหารสถานศึกษา  คือ บุคลากรวิชาชีพที่รับผิดชอบการบริหาร
สถานศึกษาแต่ละแห่ง ทั้งของรัฐและเอกชน
                        บุคลากรทางการศึกษา คือ ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษารวมทั้งผู้สนับสนุนการศึกษาซึ่งเป็นผู้ทำหน้าที่ให้บริการ หรือปฏิบัติงานเกี่ยวเนื่องกับการจัดกระบวนการเรียนการสอน การนิเทศ และการบริหารการศึกษาในหน่วยงานการศึกษาต่าง ๆ
7 ในการจัดการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ ที่กล่าวไว้ในมาตราที่ ๘ ที่ว่าด้วยหลักในการจัดการศึกษาที่สามารถกล่าวโดยสรุปได้ว่า การจัดการศึกษาจะเป็นเป็นการศึกษาที่จัดให้ตลอดชีวิตสำหรับประชาชนทุกคน โดยในการจัดการศึกษานั้นจะต้องมีการเปิดโอกาสให้ให้สังคมเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา และจะต้องมีการพัฒนาสาระและกระบวนการในการจัดการเรียนและการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
หากพิจารณาตามกฎหมาย หากมีบุคคลหนึ่งเข้าไปเป็นครูสอนหนังสือในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานอยู่เป็นประจำกรณีมิได้รับการบรรจุเป็นครูจะต้องถูกระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
                        ขณะเดียวกันกรณีแบบนี้จะไม่ผิดกฎหมาย แต่จะต้องดำเนินการขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพควบคุม ตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้และจะต้องเป็นผู้ที่ไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้ คือ จะต้องเป็นผู้ที่มีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์ มีวุฒิปริญญาทางการศึกษา หรือเทียบเท่า หรือมีคุณวุฒิอื่นที่คุรุสภารับรอง ผ่านการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาตามหลักสูตรปริญญาทางการศึกษาเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปี และผ่านเกณฑ์การประเมินปฏิบัติการสอนตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการคุรุสภากำหนด และจะต้องไม่เป็นผู้มีความประพฤติเสื่อมเสียหรือบกพร่องในศีลธรรมอันดี ไม่เป็นเป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ ไม่เคยต้องโทษจำคุกในคดีที่คุรุสภาเห็นว่าอาจนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ
9 หากต้องการสอบบรรจุเป็นครูผู้ช่วยจะต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติตามมาตรา ๔๔ ที่เกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพควบคุม ซึ่งสามารถกล่าวโดยสรุปได้ คือเป็นผู้ที่มีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์ มีวุฒิปริญญาทางการศึกษา หรือเทียบเท่า หรือมีคุณวุฒิอื่นที่คุรุสภารับรอง ผ่านการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาตามหลักสูตรปริญญาทางการศึกษาเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปี และผ่านเกณฑ์การประเมินปฏิบัติการสอนตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการคุรุสภากำหนด และที่สำคัญ คือจะต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้ คือ เป็นผู้มีความประพฤติเสื่อมเสียหรือบกพร่องในศีลธรรมอันดี เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ หรือเคยต้องโทษจำคุกในคดีที่คุรุสภาเห็นว่าอาจนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ
10 ในความคิดของข้าพเจ้านั้นการสอนโดยใช้ Weblog นั้นเป็นการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการเรียนที่มีประโยชน์มากมายนอกจากนั้นคือยังเป็นการแชร์ความรู้ต่อๆกันอีกด้วย และในการเรียนการสอนในรายวิชานี้ข้าพเจ้ามีความสุขมากเพราะข้าพเจ้าชอบเรียนแบบที่ไม่ต้องมีอาจารย์มาคอยสอนแบบที่เป็นอยู่เหมือนปัจจุบันนี้วิชานี้เป็นวิชาที่ข้าพเจ้าได้ทำงานอย่างมีอิสระมาก ถ้าในความคิดของข้าพเจ้าข้าพเจ้าจะให้เกรด A ค่ะ  หากคิดดูแล้วข้าพเจ้าควรได้เกรดอะไรก็ต้องมามองที่ผลงานของเรา ก็แล้วแต่ความสมควรของอาจารย์ผู้สอนว่าจะให้ข้าพเจ้าเกรดอะไรนะค่ะ